หลังจากกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่องในที่สุด เชลซี
หลังจากกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่องในที่สุด เชลซี ก็ถึงเวลา สะดุด จนได้สำหรับเพื่อการเจอ กับ เบิร์นลี่ย์มัน ไม่ได้เป็นการทำ
สกอร์ร่วงด้วยเหตุว่าเล่นไม่ดีหรืออะไรตลอดทั้งเกมทีมของ โธมัส ทูเคี่ล เหนือกว่าแบบชัดเจนก็แค่เอาไม่ลงและก็ท้าย
ที่สุดก็โดนลงอาญา
การครอบครองบอล 70% รวมทั้ง ช่องทางทำคะแนน ถึง 25 ครั้ง แล้วก็เตะมุมอีก 14 คราว ทีมกลายเป็นประตู ได้เพียงแค่ลูกเดียว
แค่นั้น
กล่าวได้ว่ามัน เป็นการ “เสีย” สองคะแนน ไปๆมาๆ กว่าดีหน่อยที่หงส์แดงเองพลาด ทำแต้ม จักขึ้ ขึ้นมาหลัง บุกไป แพ้ เวสด์
แฮม 2-3 ในเกมวันอาทิตย์ทำให้ในเวลานี้ ทีมยังนำ คนตาม 3 คะแนน เหมือนเดิมโดย เปลี่ยนแปลงจากหงส์แดง” มาเป็น แมน
เชสเตอร์ ซิตี้ จัดว่า โชคร้าย แม้กระนั้นบอลก็แบบนี้แหละ ฮามันน์-มัทเธอุสมองซานโช่พลาดมาผี
การจัดทีม
โมัส ทูเคิ่ล เปลี่ยน 4 ตำแหน่งจากเกมที่บุกชนะ มัลโม่ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนในเกมลีกจากเมื่อสัปดาห์ที่
แล้วที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล ทีมเปลี่ยน 1 ตำแหน่ง
ผู้รักษาประตูเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ส่วน 3 เซนเตอร์มี อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ คุมเกม แบ็ก
ขวาก-ซ้าย รีซ เจมส์ กับ เบน ชิลเวลล์ ที่ได้พักในเกมยุโรปกลับมาเป็นตัวจริง
มิดฟิลด์คู่กลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมาประสานงานเคียงข้าง จอร์จินโญ่ ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมนี้ แนวรุก รอสส์ บาร์คลี่
ย์ ได้ลงประสานงานกับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย โดยมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนคู่กองในช่วงที่ทั้ง โรเมลู ลูกากู และ ทิโม แวร์เนอร์ ยังเจ็บ
ส่วน เมสัน เมาท์ ที่มีอาการป่วยมีชื่อกลับมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้หลังหายหน้าไปในสองเกมหลัง
ก่อนเริ่มเกมนี้ จอร์จินโญ่ และ เบน มี กัปตันทีมของทั้งสองทีมมีการวางดอกป๊อปปี้ที่วงกลมกลางสนามเนื่องในวันทหารผ่านศึกที่จะ
มีขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน
บุกเป็นพายุ
การเล่นในบ้านด้วยการเจอกับทีมที่เป็นรองกว่ามากอย่าง เบิร์นลี่ย์ ไม่ต้องแปลกใจหาก เชลซี จะเปิดเกมบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมใน
ขณะที่ผู้มาเยือนก็ลงไปเน้นรับลึก
แค่ 4 นาที “สิงห์บลูส์” ก็เกือบได้ประตูจังหวะที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เคลียร์บอลมาถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ ไหลต่อมาที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ต่อ
มาถึง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้ยิงในเขตโทษด้านขวา นิค โป๊ป เซฟเอาไว้ได้เยี่ยมบอลกลับมาได้ยิงดาบสองแต่ไม่เข้ากรอบ
หลังจากนั้นสองนาที รีซ เจมส์ ได้จังหวะยิงติดบล็อคออกหลังไปและจากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุม คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดจาก
ทางขวาเข้าเขตโทษ อันเดรียส คริสเตนเซ่น โฉบมาโหม่งบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
ตลอดครึ่งทางของครึ่งแรกบอลแทบจะอยู่ในแดนของผู้มาเยือนเกือบตลอด และทาง เชลซี เองก็ไม่ได้ใช้เวลาในการครองบอลให้
เปล่าประโยชน์ พวกเขาเดินหน้าหาจังหวะจบสกอร์อยู่ตลอดจน เบิร์นลี่ย์ แทบโงหัวไม่ขึ้นแต่ยังไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ซึ่งส่วน
ใหญ่ก็จะเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเกือบตลอด
ความพยายามประสบความสำเร็จ
การบุกของ เชลซี เน้นการเจาะทางริมเส้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบอลยังไม่ค่อยมาถึงตัวเป้าอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ เท่าไรนัก แข้งริมเส้นมี
โอกาสได้จบสกอร์หรือแข้งแถวสองยังมีโอกาสมากกว่า
เกือบครึ่งชั่วโมง รีซ เจมส์ ได้จังหวะยิงในเขตโทษด้านขวาบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนแม้ทาง นิค โป๊ป จะเสียจังหวะไปแล้วแต่
ปฏิกิริยาก็ยังไวพอที่จะใช้ขาเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่ความพยามของเจ้าถิ่นก็มาส่งบอลสู่ก้นตาข่ายจนได้ในนาทีที่ 33 รีซ เจมส์ ที่ได้บอลทางขวาเปิดเข้ากลางอย่างเหมาะเหม็งเข้า
หัว ไค ฮแวร์ตซ์ โหม่งเสียบตาข่ายชนิดที่ไม่อยากจะเชื่อว่าด้วยเกมรับที่เหนียวแน่นมาตลอดกลับปล่อยให้กองหน้าทีมชาติเยอรมัน
โหม่งง่ายขนาดนี้ส่วนจังหวะนี้ นิค โป๊ป ได้แต่ยืนมอง
ประตูทำทำให้ เบิร์นลี่ย์ ต้องเดินหน้าขึ้นมาบ้าง แต่นั่สก็ไม่ได้ทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นประตูหรืออะไรเพราะโอกาสส่วนใหญ่ก็ยังคง
เป็นของ เชลซี เหมือนเดิมกระทั่งสิ้นเสียงนกหวีดครึ่งแรกด้วยสถิติครองบอล 74 ต่อ 26 เปอร์เซ็นต์ และโอกาสลุ้นประตูที่ 11 ต่อ 1
รูปแบบครึ่งหลังที่ไม่เปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกับในครึ่งเวลาแรก เกมออกสตาร์ทในการครอบครองของฝั่ง เชลซี แม้ว่า เบิร์นลี่น์ ดูจะเร่งจังหวะมากขึ้น
“สิงห์บลูส์” น่าบวกประตูเพิ่มจากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมนาทีที่ 50 รีซ เจมส์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ ติอาโก้ ซิลวา ขึ้นโหม่งบอล
โดนหัวไหล่แต่เกือบดีบอลไปชนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย
อีกสามนาทีก็น่าได้อีกครั้งจังหวะที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ไหลบอลออกจากทางให้ รีซ เจมส์ ปาดเข้ากลาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ปราดมายิงตัด
หน้าแนวรับทีมเยือนแต่บอลข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ
โอกาสทองของทีมนาทีที่ 65 คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ได้จังหวะโยกหลบผู้เล่นทีมเยือนแล้วกดด้วยซ้ายเน้นๆแต่บอลไปตรง นิค โป๊ป
ล้มตัวเซฟไว้ได้อีก รวมถึงโอกาสเน้นๆของ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ในนาทีที่ 72 ก็ยิงข้ามคานไปแบบน่าผิดหวังอีกทำให้สกอร์ยังคงนำอยู่
แค่ลูกเดียว
เสียแบบไม่น่าเสีย
จากเกมที่แทบจะอยู่ในการครอบครองของฝั่งเจ้าบ้านแถมได้ลุ้นอยู่ข้างเดียวแต่ทีมกลับมาเสียประตูชนิดที่ต้องเขกกะโหลกตัวเอง
แอชลี่ย์ เวสวู้ด ตักบอลเข้าเขตโทษ เจย์ โรดรีเกซ อยู่คนเดียวที่เสาไกลโหม่งกลับเข้ากลาง มาเตจ์ วีดร้า อยู่กลางประตูคนเดียวยิง
เผาขนเข้าไป แม้ว่าจะมีการเช็กวีเออาร์แต่สุดท้ายมันก็เป็นประตูตีเสมอของทีมเยือน
ไม่รู้ว่าจังหวะแนวรับของ เชลซี คิดอะไรกันอยู่ อาจจะเป็นการเช็กล้ำหน้าพลาดกันเอง เพราะถ้าเหม่อไม่ควรจะเป็นกันทีเดียวทั้งแผง
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย โธมัส ทูเคิ่ล จัดการส่ง คริสเตียน พูลิซิช และ เมสัน เมาท์ ลงมาเพิ่มความสดในเกมรุกและก็ได้โอกาสลุ้นอยู่
เหมือนกัน แต่ทีมเยือนก็ลงไปรับแน่นยากที่จะเจาะเข้าแล้ว สุดท้ายมีแค่ 1 คะแนนในเกมนี้ แทงบอลออนไลน์
เกมถัดไป
สองสัปดาห์ต่อจากทีมโปรแกรมฟุตบอลลีกจะได้พักหลักทางให้กับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โดยหลังจากนั้นทีมจะไปเยือน เลส
เตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ 20 พฤศจิกายน ต่อด้วยภารกิจลุ้นเข้ารอบฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยการเปิดบ้านเจอกับ ยูเวนตุส